Jump to content




Sign in to follow this  
admin

ประตู-กองหลัง!! บทสรุปคะแนนความสามารถเด็กปืน ประจำฤดูกาล 2023/24 (Part 1)

Recommended Posts

Arsenal%20POTY%202024.jpg?auto=webp&form
 
ดาบิด ราย่า: 7.5     (ลงเล่น 41 เกมส์)
เป็นดีลที่เซอร์ไพรซ์ไม่น้อยในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะ กับการเซ็นสัญญา ดาบิด ราย่า มาจากเบรนท์ฟอร์ดแบบยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาดหลังจบฤดูกาล เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าอาร์เซน่อลจะเซ็นผู้รักษาประตูระดับนี้เข้ามา เพราะยังไม่มีเหตุผลที่อาร์เซน่อลจะต้องปรับเปลี่ยนมือ 1 แต่เชือว่าดีลนี้มันเป็นโอกาสที่อาร์เตต้า ไม่อยากปล่อยให้หลุดมือ เพราะราย่า คือเป้าหมายอันดับ 1 ที่เขาเคยอยากได้ ตั้งแต่ตอนที่มาร์ติเนซ ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแอสตัน วิลล่า
 
ช่วงแรกราย่ายังต้องนั่งรอโอกาส จนกระทั่งนัดที่ 5 ของฤดูกาล เป็นจุดเริ่มต้นที่ราย่าเข้ามายึดตำแหน่งมือ 1 แต่เขาก็ต้องเจอกับแรงกดดันมากมาย ทั้งจากสื่อและแฟนบอล ว่าเขาดีกว่าแรมส์เดลตรงไหน ในช่วงต้นเราจะเห็นความผิดพลาดจากราย่าจนทีมเสียประตู อย่างในเกมส์เสมอเชลชี 2-2 หรือเกมส์ที่บุกชนะลูตัน ทาวน์ 4-3 

กว่าที่ราย่า จะเอาชนะใจแฟนบอลอาร์เซน่อลได้ ก็ต้องมองว่าเป็นหลังจากที่เขาสวมบทฮีโร่ในการเซฟจุดโทษจนผ่านทีมเอาชนะปอร์โต้ ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ท้ายที่สุดเขาได้รางวัลถุงมือทองคำ ของพรีเมียร์ลีกจากการเก็บคลีนซีต 16 เกมส์ในฤดูกาลนี้ ถึงแม้ว่าราย่า จะไม่ได้มีจังหวะเซฟมหัศจรรย์อะไรมากมาย แต่สิ่งที่เขาทำ มันก็มีความสำคัญต่อทีม ทั้งการขึ้นเกมส์ด้วยเท้า ที่เพื่อนไว้ใจราย่าได้ในเรื่องนี้ และการออกมารับลูกคลอสด้านข้าง ก็เป็นเรื่องที่ราย่าทำได้โดดเด่น 

ช่วงท้ายซีซั่น เราอาจได้เห็นความผิดพลาดของเขา ในเกมส์กับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เขายกมือยอมรับผิดชอบในจังหวะนั้น แล้วก็ลุกกลับมาตอบโต้ด้วยฟอร์มการเล่นในสนาม ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเขานิ่งพอที่จะเอาตัวรอดไปได้ ภาพรวม ราย่า อาจเจอกับช่วงแรกที่อยู่สภาพแวดล้อมที่กดดัน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ผ่านการทดสอบ และทำให้การตัดสินใจของอาร์เตต้าเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ว่าทำไม ราย่า จึงต้องเป็นมือหนึ่ง
 
แอรอน แรมส์เดล: 6.0     (ลงเล่น 11 เกมส์)
ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล แรมส์เดลยังคงเป็นมือ 1 ของทีม เขาช่วยเซฟจุดโทษจนพาทีมคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ ได้สำเร็จ และยังได้ลงเฝ้าเสาในช่วง 4 เกมส์แรกของฤดูกาล ซึ่งทีมก็ชนะ 3 เสมอ 1 แรมส์เดลก็ไม่ได้แสดงถึงข้อผิดพลาดอะไร จนเป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียตำแหน่งมือหนึ่ง แต่หลังนั้นเขากลายสภาพเป็นมือสองอย่างถาวร 
 

หลังจากนั้นก็ได้ลงเล่นบ้าง แต่ด้วยที่บอลถ้วยทีมตกรอบเร็วอีก ทำให้โอกาสลงของแรมส์เดล ยิ่งน้อยลงไปอีก ส่วนในลีกเขาก็ได้เล่นเฉพาะนัดกับเบรนท์ฟอร์ด ที่ราย่า ลงเล่นไม่ได้ ซึ่งเกมส์กับเบรนท์ฟอร์ดในบ้าน ก็มีจังหวะผิดพลาดที่ทำให้ทีมเสียประตู แต่ครึ่งหลังก็มี 2 ซูเปอร์เซฟที่ทำให้ทีมยังอยู่ในเกมส์ และเก็บชัยชนะได้ในที่สุด 

 
F6j4GRybIAECFjS.jpg
 
วิลเลี่ยม ซาลิบา: 8.5     (ลงเล่น 52 เกมส์, 2 ประตู 1 แอสซิท)
ซาลิบา เป็น 1 ใน 2 ผู้เล่น Outfield ที่ลงเล่นทุกนาทีในพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาลนี้ แล้วมันคงจริงอย่างที่หลายบอกว่า ถ้าปีก่อนซาลิบาไม่บาดเจ็บ อาร์เซน่อลคงจะคว้าแชมป์ลีกไปแล้ว ด้วยฟอร์มของซาลิบาที่มันมีมาตรฐานที่สูงมาก และมันสำคัญต่อวิธีการเล่นของอาร์เซน่อล เขามีบทบาทมากขึ้นกับการเป็นตัวคีย์แมนในการออกบอลจากแนวรับ และเวลาที่ทีมเสียบอล แล้วจะโดนสวนกลับ ความเร็ว และการอ่านเกมส์ของซาลิบา ช่วยลดความเสียหายให้ทีมได้เยอะมาก  

ถ้าหากจะเลือก 3 นักเตะที่โดดเด่นที่สุดของอาร์เซน่อลในฤดูกาลนี้ หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ ซาลิบา และด้วยผลงานทำให้เขามีชื่อเขาชิงนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก 

 
กาเบรียล มากัลเญส: 8.0   (ลงเล่น 48 + 2 เกมส์, 4 ประตู 1 แอสซิท)
ถ้าบอกว่านักเตะคนไหนที่ถูกมอง Underrated ที่สุดในทีมอาร์เซน่อล หลายคนต้องบอกว่า กาเบรียล มากัลเญส อาจด้วยฟอร์มอันเอกอุของซาลิบา ทำให้ความโดดเด่นของกาเบรียล ถูกกลบไป ถ้าแฟนบอลอาร์เซน่อล ที่ติดตามทีมก็จะรับรู้ถึงผลงานของกาเบรียล แต่สำหรับแฟนทีมอื่น หรือคนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม อาจจะมองว่าที่อาร์เซน่อลมีเกมส์รับแข็งแกร่ง เพราะมีวิลเลียม ซาลิบา แต่อันที่จริงกาเบรียล ก็เป็นคนที่สำคัญเช่นกัน
 
สิ่งที่กาเบรียล พัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจนคือ เรื่องสมาธิกับเกมส์ และลดความผิดพลาดส่วนบุคคลลงไปเยอะมาก นอกจากนี้จังหวะเล่นลูกตั้งเตะ กาเบรียล ยังเป็นตัวทีเด็ด เขาทำไป 4 ประตูให้กับทีมในฤดูกาลนี้ด้วย

เบน ไวท์: 8.0     (ลงเล่น 46 + 5 เกมส์, 4 ประตู 5 แอสซิท)
ก่อนเริ่มฤดูกาล การที่อาร์เซน่อลตัดสินใจเลือกซื้อ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เข้ามา คนที่โดนประเมินว่าจะกระทบคือตำแหน่งของเบน ไวท์ ที่อาจจะได้ลงเล่นลดลง แต่จากที่ทิมเบอร์ไปเล่นดีในตำแหน่งแบ็คซ้าย และได้รับบาดเจ็บจนพักยาว ทำให้ ไวท์ ยังคงยืนเป็นตัวหลักในแผงแบ็คโฟร์ต่อไป จะมีช่วงปลายปี ที่สภาพร่างกายของ ไวท์ ไม่สมบูรณ์ จนฟอร์มเขาดร็อปลงไป ตามรายงานระบุว่าเขาต้องกัดฟันเล่นทั้งที่มีอาการเจ็บที่หัวเข่า  

แต่พอกลับมาจากดูไบ ไวท์ก็กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองอีกครั้ง แล้วทำให้สามเหลี่ยมฝั่งขวาของอาร์เซน่อลกลับมาดุดันอีกครั้ง ทั้งเกมส์รับที่ไว้ใจได้ จังหวะ Overlap ที่ขึ้นไปสนับสนุนเกมส์รุก ไม่แปลกที่ไวท์จะถูกยกว่าเป็นแบ็คขวาที่ดีที่สุดคนหนึ่งในลีกตอนนี้ แล้วปีนี้เขายิงไป 4 ประตูกับ 5 แอสซิท ซึ่งถือว่าพัฒนาในแง่ส่วนร่วมกับประตูได้ดีขึ้นเยอะมาก

ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ: 7.0     (ลงเล่น 15 + 14 เกมส์, 2 ประตู 3 แอสซิท)
ฤดูกาลที่สามของโทมิยาสุกับอาร์เซน่อล แต่ก็เหมือนเดิมทุกปีที่ปัญหาอาการบาดเจ็บยังคงตามเล่นงานโทมิยาสุไม่เลิก ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนบทบาทการเล่นของเขาถูกโยกมาใช้งานในตำแหน่งแบ็คซ้าย มากกว่าจะเป็นแบ็คขวาตามธรรมชาติ กว่าที่โทมิจะได้มาลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นช่วง 5 เกมส์สุดท้ายแล้ว ซึ่งกลายเป็นว่าโทมิเป็นแบ็คซ้ายที่ดูจะลงตัวที่สุด เท่าที่มีตัวเลือก

ยาคุบ คิวิออร์: 6.5     (ลงเล่นตัวจริง 18 + 12 เกมส์, 1 ประตู 3 แอสซิท)
ถูกเซ็นสัญญามาตั้งแต่เดือนมกราคมของฤดูกาลที่แล้ว แต่คิวิออร์ ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมามีตำแหน่งในทีม รวมถึงช่วงครึ่งฤดูกาลแรก เขาก็ยังไม่ได้มีบทบาทกับทีมมากนัก จนมาในช่วงโปรแกรมส่งท้ายปีเขาได้ลงตัวจริงสองนัดในตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่เขาก็ทำผลงานได้น่าผิดหวังในเกมส์แพ้ฟูแล่ม 1-2 รวมถึงเป็นคนโหม่งเข้าประตูตัวเอง ในเกมส์แพ้ลิเวอร์พูล 0-2 จนทีมตกรอบเอฟเอ คัพรอบ 3 

แต่หลังจากทริปดูไบ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของคิวิออร์ เขากลับมาทำได้ดีกับบทบาทแบ็คซ้าย เมื่อถูกปรับบทบาทให้ยืนเป็นแบ็คซ้ายปกติ ที่ไม่ต้อง Inverted ทำให้เขาเล่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีเกมส์ที่เขาขึ้นไปทำประตูได้ด้วยในนัดชนะนิวคาสเซิ่ล 4-1 ก่อนที่จะมีดีแตก ในเกมส์นัดแรกกับบาเยิร์น มิวนิค ที่เขาถูก เลรอย ซาเน่ พาทัวร์จนเสียผู้เสียคน และหลุดจากตำแหน่งตัวจริงไปหลังจากนั้น

โอเล็กซานเดอร์ ชินเชนโก้: 5.5     (ลงเล่นตัวจริง 24 +10 เกมส์, 1 ประตู 1 แอสซิท)
ชินเชนโก้ เป็นผู้เล่นคีย์แมนของอาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กับบทบาท Inverted fullback ที่ช่วยให้อาร์เซน่อล พัฒนารูปแบบการเล่นไปเป็นอีกระดับ แต่ฤดูกาลนี้กลายเป็นคนละเรื่อง เขามีปัญหาบาดเจ็บเล่นงานตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และฟอร์มการเล่นของเขาก็ไม่เหมือนเดิม อีกทั้งจุดอ่อนในเรื่องเกมส์รับถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน เพราะไม่มีกรานิต ชาคา ช่วยสนับสนุนแบบปีก่อน แล้วเรื่องความละเอียดในการเล่น ก็ยังเป็นสิ่งที่ชินเชนโก้ยังแก้ไม่หาย บทจะพลาดก็พลาดแบบง่ายๆ ในพื้นที่ที่ไม่ควรเสียบอล 

ช่วงท้ายฤดูกาล แม้ว่าชินเชนโก้ จะฟิตกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ใช่แบ็คซ้ายตัวเลือกแรกอีกต่อไป ทำให้ภาพรวมเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับชินเชนโก้ 
 
ยูร์เรียน ทิมเบอร์: N/A     (ลงเล่น 2 + 1 เกมส์)
หากนับบรรดาผู้เล่นใหม่ 4 คน ที่อาร์เซน่อล ดึงเข้ามาเสริมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีก่อน ยูร์เรียน ทิมเบอร์ เป็นคนที่สามารถปรับตัว และสร้างอิมแพ็คได้เร็วที่สุด เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และเล่นได้โดดเด่นมากๆ ในเกมส์คอมมูนิตี้ ชิลด์ กับแมนซิตี้ กับบทบาทแบ็คซ้าย แต่ทิมเบอร์ดวงแตก ได้รับบาดเจ็บหนัก ACL ตั้งแต่เกมส์นัดแรกของพรีเมียร์ลีก จนต้องพักยาวกว่าจะกลับมาลงเล่นได้ ก็เป็นเกมส์สุดท้ายของฤดูกาลแล้ว

Share this post


Link to post
Share on other sites




 Hi88    สล็อตเว็บตรง    สล็อตเว็บตรง    คาสิโน  

สล็อต PGSLOT350   สล็อต PGSLOT920   สล็อต PGSLOT699   สล็อจโจ๊กเกอร์ JOKER350   ซื้อหวย 24 ชั่วโมง   ดูบอลสด 



บ้านผลบอลวันนี้ Ball7m | ผลบอลสด Bankeela

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...