Jump to content




Sign in to follow this  
admin

รู้จัก "เจสัน ไอโต" ทายาทอสูรที่เอดูปั้นไว้สานต่อตำแหน่งผู้อำนวยกีฬาอาร์เซน่อล

Recommended Posts

image.png

หลังจากทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด เอดู อดีตผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซน่อล บอกกับ เจสัน ไอโต รองผู้บริหารของเขาว่า ถึงเวลาที่เขาควรอำลาอาร์เซน่อล

ไอโต มักจะเป็นหนึ่งในคนแรกที่มาถึงสนามซ้อม และเป็นคนสุดท้ายที่กลับออกไป แต่เอดูต้องการให้เขาได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ "ครั้งหนึ่งผมบอกว่า เจสัน ออกจากออฟฟิศไปเถอะ!!" เอดูเล่าให้ทาง The Athletic ฟัง "มันเพื่อพัฒนาตัวเขา ผมบอกเขาว่า ออกไปพบผู้คน ไปสร้างความสัมพันธ์"

สำหรับเอดู นี่คือขั้นตอนถัดไปในการเตรียมไอโต และอาร์เซน่อล ให้พร้อมสำหรับวันที่เขาอาจจะไม่อยู่แล้ว "ตั้งแต่ผมมาถึงที่นี่ ผมรู้สึกว่าผมต้องเตรียมใครสักคนสำหรับวันที่ผมอาจจะจากไป ผมคิดว่านี่เป็นความยุติธรรมต่อสโมสร ผมทำแบบเดียวกันที่โครินเธียนส์ และกับทีมชาติบราซิล มีใครสักคนที่ต้องเข้าใจข้อมูลทั้งหมด รู้ทุกอย่างทั้งภายในและภายนอก และผมรู้สึกว่าเจสันคือตัวเลือกนั้น และผมได้บอกเรื่องนี้กับทุกคนภายในสโมสรแล้ว"

หลังจากเอดู ออกจากตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจสัน ไอโต วัย 39 ปี ได้ขยับขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซน่อลชั่วคราว แม้สโมสรยังมีแผนที่จดำเนินการสรรหาผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ แต่ดูเหมือนไอโต จะยังคงดำรงตำแหน่งนี้ไปจนถึงอย่างน้อยก็ช่วงซัมเมอร์หน้า และมีหลายคนมองว่าเขาเป็นตัวเต็งในการสรรหาครั้งนี้เช่นกัน 

นี่ถือเป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งสำหรับชายที่กอ่หนน้านี้ไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก แม้ว่าเขาไม่ได้มีโปรไฟล์ที่โดดเด่นเหมือนเอดู ซึ่งเป็นอดีตนักเตะทีมชาติบราซิล และหนึ่งในสมาชิกทีมยุคไร้พ่าย แต่ผู้คนที่เคยทำงานร่วมกับไอโต ต่างเชื่อว่าเขามีความสามารถเพียงพอ

"ฟังนะ ผู้คนต้องการโอกาส" เอดูกล่าว "จำได้ไหมว่าตอนที่ผมมาถึงที่นี่ ผู้คนบอกว่าผมไม่มีประสบการณ์ในยุโรป สโมสรก็ให้โอกาสผม และผมก็พิสูจน์ได้ว่าผมทำได้ ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าผมได้เตรียมคนอื่นไว้สำหรับบทบาทนี้แล้ว แต่คนต้องการโอกาส"

แม้ว่าแฟนบอลของอาร์เซน่อลเพิ่งจะได้ยินชื่อของ เจสัน ไอโต เมื่อไม่นานมานี้เอง แต่จริงๆ แล้วเขาทำงานกับสโมสรมานานเป็นสิบปีแล้ว อาชีพของเขาเริ่มต้นในบทบาทสรรหาและบทบาททางเทคนิคกับนอริช ซิตี้ และทีมพัมนาในสหรัฐฯ ชิคาโก อินเฟอร์โน

เส้นทางอาชีพของไอโต เปลี่ยนไปเมื่อเอดู เข้ามาร่วมงานกับอาร์เซน่อลในฐานผู้อำนวยการเทคนิคในปี 2019 "ประวัติการทำงานของเขา ทำให้ผมทึ่งมาก" เอดูกล่าว "ผมจำได้ว่าตอนที่ผมมาถึง เขาทำงานอยู่ในแผนกแมวมอง ผมพยายามพูดคุยกับผู้คน สัมภาษณ์พวกเขา ดูว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร รู้สึกอย่างไรกับอนาคต และต้องการทำอะไรในสโมสร"

"เมื่อผมเริ่มพูดคุยกับเจสัน ผมรู้สึกว่า ว้าว คนนี้มีอะไรพิเศษจริงๆ วิธ๊ที่เขาปฏิบัติตัว วิธีที่เขาพูด วิธีที่พวกเขาต้องการช่วยสโมสร และวิธีที่เขาต้องการพัฒนาตัวเองในสายอาชีพ" ทุกอย่างที่ผมขอจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่วยติดต่อ ประสานงาน นำเสนอ หรือการวิจัย เขามีทักษะที่เหมาะสม เขารู้จักคนในวงการฟุตบอลมากมาย เขาฉลาดมาก และสามารถหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้"

เจสัน ไอโต ยังสามารถพูดภาษาโปรตุเกสได้อย่างคล่องแคล่ว เนื่องจากภรรยาของเขาเป็นคนบราซิล ทำให้เขาและเอดูสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เอดู สังเกตเห็นความตึงเครียดระหว่างกลุ่มนักวิเคราะห์ เช่น ไอโต กับทีมแมวมองแบบดั้งเดิมที่นำโดย ฟรานซิส คาจิเกา และปีเตอร์ คลาร์ก 

อาร์เซ่อลพยายามปรับปรุงทีมสรรหานักเตะที่สร้างขึ้นในยุคอาร์แซน เวนเกอร์ มาเป็นเวลานานแล้ว โดยปี 2012 อีวาน กาซิดิช ได้ริเริ่มซื้อบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล statDNA ส่วนหนึ่งของภารกิจของเอดูคือการเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และทำงานร่วมกันในเชิงองค์กรมากขึ้น โดยใช้ทีมงานที่มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

กระบวนการเปลี่ยนแปลงทีมงานสรรหานักเตะของอาร์เซน่อลช่วยลดค่าใช้ได้อย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่โควิดระบาดในปี 2020 ซึ่งทำให้อาร์เซน่อลต้องลดจำนวนทีมงานแมวมองจำนวนมาก โดยมีการปลดพนักงานที่มีชื่อเสียงอย่าง ปีเตอร์ คลาร์ก, ฟรานซิส คาจิเกา และไบรอัน แมคเดอร์มอตต์ ออกอย่างน่าเสียดาย

เจสัน ไอโต เป็นเพียงไม่กี่คนที่รอดจากกระบวนการนี้ อย่างไรก็ตาม หลายคนที่ถูกปลดมองว่าเขามีส่วนร่วมกับการตัดสินใจนี้ แต่เอดูยืนยันว่าเขาเป็นผู้ตัดสินใจเอง "เมื่อผมเข้ามา ผมรู้ว่ามีบางอย่างในแผนกนี้ที่ต้องแก้ไข"

ไอโต ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างชัดเจน "ผมเริ่มมอบหมายความรับผิดชอบให้เจสันมากขึ้นในด้านสรรนักเตะ เขาเริ่มใกล้ชิดกับผมมากขึ้น และทุกสิ่งที่ผมขอให้เขาทำ เขาก็ให้คำตอบที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม เขามุ่งมั่นอย่างมากที่จะพิสูจน์ตัวเอง ยิ่งผมมอบหมายความรับผิดชอบให้เขามากขึ้น เขาก็ยิ่งทำได้ดีมากขึ้น"

เอดูมอบความรับผิดชอบให้ไอโตในการช่วยสร้างโครงสร้างใหม่และทีมงานสรรหานักเตะใหม่ โดยไอโตมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสัมภาษณ์และแนะนำบุคลากร ก่อนที่เอดูจะตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ทีมงานเริ่มแรกประกอบไปด้วยไอโต, ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลทอลลี่ โคเบิร์น, นักวิเคราะห์มาร์ก เคอร์ติส และผู้จัดการดูแลนักเตะยืมตัวเบน แนปเปอร์ ซึ่งถูกตั้งชื่อว่าแผนก Football Intelligence ต่อมามีการเพิ่มเจมส์ เอลลิสจากฟูแล่มเข้ามาเพื่อดูแลการสเกาท์ในสหราชอาณาจักร

“แนวทางของเอดูในการสร้างทีมคือการให้ความสำคัญกับทักษะและบุคลิกของบุคคลมากกว่าประสบการณ์หรือชื่อเสียง” แหล่งข่าวในอาร์เซนอลกล่าว ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยในหน้าที่การงาน

เจสัน ไอโตได้รับการเลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยของเอดู โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้านการสรรหานักเตะ “เขาทำได้ดีมาก” เอดูกล่าว “จากนั้นผมบอกเขาว่า ‘คุณจะยังคงดูแลด้านการสเกาท์ แต่ผมต้องการให้คุณใกล้ชิดกับผมมากขึ้น ผมอยากให้คุณรับผิดชอบมากขึ้นเกี่ยวกับการย้ายทีม การติดต่อ และการสร้างความสัมพันธ์’”

เมื่อเอดูได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนแรกของสโมสรในเดือนพฤศจิกายน 2022 เขาขอให้ไอโตได้รับตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการกีฬา เพื่อให้ไอโตมีความเชื่อมโยงกับทีมเยาวชน แผนกนักเตะยืมตัว การสเกาท์ และช่วยเขาในเกือบทุกเรื่อง ไอโตมักทำหน้าที่แทนเอดูในกิจกรรมของสโมสรที่เกี่ยวข้องกับทีมชุดใหญ่ ทีมเยาวชน และทีมหญิง

การปรับโครงสร้างทำให้บทบาทในแผนก Football Intelligence ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเจมส์ เอลลิสได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายสรรหานักเตะ และมาร์ก เคอร์ติสกลายเป็นรองของเขาโดยตรง หลังจากเบน แนปเปอร์ออกไปเป็นผู้อำนวยการกีฬาของนอริช ซิตี้ ซาม เฮย์บอลก็เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการด้านการพัฒนาเส้นทางและการยืมตัว

ไอโตมีชื่อเสียงว่าเป็นคนยุติธรรม แต่สามารถเด็ดขาดเมื่อจำเป็น เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และพร้อมที่จะท้าทายผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่า หากเขาเห็นว่าจำเป็น

ในขณะที่บทบาทของเขาขยายขึ้น เอดูส่งเสริมให้ไอโตพูดคุยกับตัวแทน ครอบครัว และสโมสรต่างๆ “เจสันมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน” เอดูกล่าว “เราได้พูดคุยกันบ่อยครั้งเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในบทบาทของผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคหรือผู้อำนวยการกีฬา”

 

image.png

 

เมื่อเอดูเดินทางไปพบสโมสรหรือผู้เล่น เขามักพาไอโตไปด้วย ในด้านการย้ายทีม กระบวนการของเอดูคือทีม Football Intelligence จะเริ่มต้นการติดต่อ สร้างความสัมพันธ์ก่อนที่เอดูจะเข้ามามีส่วนร่วมในขั้นตอนสุดท้าย ไอโตมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเซ็นสัญญากับไค ฮาแวร์ตซ์จากเชลซี และเขาและเคอร์ติสร่วมมือกันในกระบวนการสรรหายูร์เรียน ทิมเบอร์

ในช่วงเวลาที่เอดูดำรงตำแหน่งที่อาร์เซนอล เขาเคยเผชิญกับช่วงที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานฟุตบอลถึงสองครั้ง ซึ่งส่งผลต่อรายละเอียดของการเจรจาและการจัดการสัญญา ฮุส ฟาห์มี ลาออกจากอาร์เซนอลในเดือนพฤศจิกายน 2020 เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ราอูล ซานเยยี หัวหน้าฝ่ายฟุตบอลในขณะนั้นออกไป ส่งผลให้เกิดช่วงเวลาว่างในตำแหน่งนี้นานหลายเดือน จนกระทั่งริชาร์ด การ์ลิก เข้ามารับตำแหน่งแทนจากพรีเมียร์ลีก

สถานการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อการ์ลิกได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการในช่วงฤดูร้อนนี้ อาร์เซนอลต้องรอจนถึงเดือนตุลาคมเพื่อแต่งตั้งเจมส์ คิง เป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอลคนใหม่

ในช่วงเวลานี้ เจสัน ไอโตจึงต้องรับผิดชอบงานเพิ่มเติมในฐานะผู้ช่วยคนสำคัญของเอดู ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เอดูได้รับการสนับสนุนจากการ์ลิก รวมถึงทีมกฎหมายและการเงินของอาร์เซนอล แต่ไอโตก็มีบทบาทสำคัญในรายละเอียดของการเจรจา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ช่วยให้เกิดความคืบหน้าในการเจรจาที่ยากลำบากเพื่อเซ็นสัญญากับริคคาร์โด คาลาฟิโอรี ไอโตยังพัฒนาทักษะการพูดภาษาสเปนของเขา และมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาเพื่อเซ็นสัญญากับมิเกล เมริโน

“เจสันเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดกับผม รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ร่วมกัน” เอดูกล่าว “เราแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเขาช่วยเหลือได้อย่างมาก”

 

 

image.png

ในขณะที่ประสบการณ์ของไอโตเพิ่มขึ้น บทบาทและความรับผิดชอบของเขาก็ขยายออกไปเช่นกัน เขาและเจมส์ เอลลิส หัวหน้าฝ่ายสรรหานักเตะ ทำงานใกล้ชิดกันในข้อตกลงเพื่อดึงตัวทอมมี เซตฟอร์ด ผู้รักษาประตูจากอาแจ็กซ์มาสู่ทีมเยาวชน

ทีม Football Intelligence ยังขยายงานไปยังการสเกาท์ทีมฟุตบอลหญิง โดยไอโตทำงานร่วมกับแคลร์ วีทลีย์ ผู้อำนวยการฟุตบอลหญิงของอาร์เซนอล ในกระบวนการสรรหาผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงคนใหม่ แม้ว่ากระบวนการนี้ยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งแทนโจนัส ไอเดวาลล์ ซึ่งออกจากตำแหน่งในเดือนตุลาคม โดยเรเน สเลเกอร์สยังคงทำหน้าที่ผู้จัดการชั่วคราว

หลังจากก้าวขึ้นมารับตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซนอล เจสัน ไอโตได้มุ่งเน้นบทบาทของเขาให้แคบลง โดยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนทีมชุดใหญ่ชายเป็นหลัก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สมเหตุสมผล เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่เอดูช่วยสร้างไว้ ทำให้สโมสรมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ในแต่ละแผนกอยู่แล้ว

บุคคลอย่างเจมส์ เอลลิส, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ และลี เฮอร์รอน มีบทบาทสำคัญในการบริหารอะคาเดมีของสโมสร ขณะที่แคลร์ วีทลีย์ และโจดี เทย์เลอร์ ผู้บริหารด้านบริการฟุตบอล ดูแลทีมฟุตบอลหญิงของอาร์เซนอล สิ่งนี้ทำให้ไอโตสามารถมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ เช่น การสรรหานักเตะสำหรับทีมชุดใหญ่

ในเดือนพฤศจิกายน ไอโตร่วมเดินทางไปลอสแอนเจลิสกับผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตตา, ริชาร์ด การ์ลิก และทิม ลูอิส รองประธานบริหารของสโมสร เพื่อพูดคุยกับเจ้าของทีมเกี่ยวกับกลยุทธ์ของสโมสร ไอโตสร้างความประทับใจในระหว่างการเดินทางครั้งนั้น และทำให้สโมสรมั่นใจว่าเขาสามารถดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการกีฬาได้จนถึงฤดูร้อน หากจำเป็น

ในขณะเดียวกัน เอดูไม่สามารถรับตำแหน่งใหม่ได้ภายในระยะเวลาหกเดือน และเป็นไปได้ว่าการสรรหาผู้สมัครจากภายนอกเพื่อแทนที่ตำแหน่งเดิมของเขา อาจใช้เวลาในกรอบเวลาเดียวกัน

ในระหว่างนี้ เจสัน ไอโตมีโอกาสในการสร้างความประทับใจ แม้ว่าเขาจะขาดประสบการณ์และชื่อเสียงเมื่อเทียบกับเอดู แต่สิ่งที่ไอโตนำเสนอคือความต่อเนื่อง แม้อาร์เซนอลจะยังคงพยายามปรับปรุงทีมต่อไป แต่กระบวนการสรรหาของพวกเขาในช่วงห้าปีที่ผ่านมาได้ผลลัพธ์ที่ดี เอดูได้ดูแลการตรวจสอบกระบวนการหานักเตะของอาร์เซนอลตั้งแต่ระดับอายุต่ำสุดถึงทีมชายและหญิงชุดใหญ่ ซึ่งช่วยให้สโมสรเข้าใจตลาดได้ดีขึ้น

สโมสรบางครั้งทำงานล่วงหน้าได้ถึงสองปี การให้ไอโตดำรงตำแหน่งรักษาการจะช่วยให้อาร์เซนอลเห็นแผนการที่ได้ตั้งไว้บรรลุผล หากมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามา อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไอโตขาดไปคือชื่อเสียงภายนอก แต่เขามีความเข้าใจภายในสโมสรอย่างลึกซึ้ง อาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงความยินดีที่จะโปรโมตจากภายในเมื่อย้ายการ์ลิกไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร

คำถามสำคัญคือ ไอโตมีอำนาจเพียงพอที่จะโน้มน้าวให้คณะกรรมการสนับสนุนแนวคิดของแผนก Football Intelligence หรือไม่ อาร์เซนอลมีแผนที่จะเพิ่มการสรรหานักเตะเยาวชน เพื่อขยายผลตอบแทนจากตลาดซื้อขาย แต่แผนดังกล่าวต้องการงบประมาณ

อีกความสัมพันธ์ที่สำคัญคือความสัมพันธ์ระหว่างผู้อำนวยการกีฬาและผู้จัดการทีม มิเกล อาร์เตตาคาดว่าจะมีส่วนสำคัญในการเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ความร่วมมือระหว่างอาร์เตตากับเอดูคือรากฐานของการกลับมาของอาร์เซนอลในช่วงหลัง และสโมสรทราบดีว่าพวกเขาต้องทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกต้อง

การที่เอดูกับอาร์เตตาพูดคุยกันเป็นประจำในเชิงตัวต่อตัว แต่ไอโตกับอาร์เตตาจะมีปฏิสัมพันธ์กันในที่ประชุมการวางแผนทีม การที่ไอโตสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเอดูมาแล้ว ตอนนี้เขาต้องทำเช่นเดียวกันกับผู้จัดการทีม

แม้ว่าจะมีผู้สมัครภายนอกเช่น โรแบร์โต โอลาเบ้ จากเรอัล โซเซียดัด และแดน แอชเวิร์ธ อดีตผู้บริหารจากไบรท์ตัน, นิวคาสเซิล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีข่าวเชื่อมโยงกับตำแหน่งนี้ แต่การที่อาร์เซนอลเลือกไอโตอาจจะเหมาะกับอาร์เตตาไม่น้อย เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกิดความต่อเนื่องในโครงการที่กำลังมาถูกทาง แต่การเลือกคนที่อายุน้อยกว่ายังจะช่วยเสริมอำนาจของผู้จัดการทีมในการตัดสินใจเรื่องฟุตบอล

โอลาเบ้และแอชเวิร์ธล้วนเป็นตัวเลือกที่มีเหตุผล — โอลาเบ้เป็นที่รู้จักในอาร์เซนอลและอาร์เตตา โดยการเจรจากับพวกเขาในเรื่องนักเตะอย่างเมอริโน่และคีแรน เทียร์นี่ย์ ขณะที่การที่แอชเวิร์ธออกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างรวดเร็วอาจทำให้ทีมงานของอาร์เซนอลต้องคิดหนัก แต่การที่เขามีความสัมพันธ์อันดีและเคยทำงานร่วมกับริชาร์ด การ์ลิก ผู้บริหารของอาร์เซนอลก็ถือเป็นจุดเด่น

อาร์เซนอลอาจพิจารณาการแต่งตั้งแอชเวิร์ธในตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา — ซึ่งเป็นบทบาทที่มีความรับผิดชอบในด้านกลยุทธ์สโมสรในเรื่องกีฬาทั้งหมด ขณะที่ยังคงให้ไอโตทำหน้าที่ในฐานะ ‘ผู้อำนวยการเทคนิค’ ดูแลการสรรหานักเตะและการวางแผนทีม

ระหว่างช่วงเวลานี้ได้ช่วยเพิ่มโปรไฟล์ของไอโต และหากไม่ประสบผลสำเร็จในอาร์เซนอล เขาน่าจะเป็นคนที่มีความต้องการจากสโมสรอื่น แต่โอกาสที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการที่เขามีโอกาสในสโมสรที่เขาทำงานมาแล้วสิบปี

ในการโน้มน้าวอาร์เซนอลและอาร์เตตา สิ่งที่ดีที่สุดที่ไอโตสามารถทำได้คือการช่วยเซ็นสัญญานักเตะที่อาร์เตตาต้องการ ไม่มีอะไรสำคัญกับผู้จัดการทีมไปกว่าการได้ตัวผู้เล่นที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงตลาดเดือนมกราคม หรือการเตรียมการสำหรับการย้ายตัวในช่วงซัมเมอร์ ไอโตน่าจะมีเวลาประมาณหกเดือนในการแสดงศักยภาพในการทำข้อตกลง


 

Share this post


Link to post
Share on other sites




 Hi88    สล็อตเว็บตรง    สล็อตเว็บตรง    คาสิโน  

ไอโต จะได้เป็นผอ.กีฬาปืนแบบถาวรหรือเปล่า ก็ต้องดูผลงานช่วงตลาดเดือนมกราคม รวมถึงการต่อสัญญานักเตะใหม่ ที่มีตัวสำคัญๆ ทั้งนั้น ซาลิบา ซาก้า กาเบรียล อีธาน โอลาเบ้เป็นอีกคนที่น่าสนใจ ในการเข้ามาทำงานต่อ เป็นคนบ้านเดียวกันกับอาร์เตต้า คุ้นเคยกันดี และน่าจะช่วยดีลเสริมทัพอย่าง อิซัค กับซูบิเมนดี้ ให้เราได้

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...