สามเหลี่ยมฝั่งขวาที่เหลือแค่ด้านเดียว!! "กัปตันโอเดการ์ด" ฟอร์มตก หรือแบกภาระมากเกินไป

[admin 48]

 

หลังจากที่อาร์เซนอลพ่ายแพ้ต่อเวสต์แฮม 1-0 กัปตันทีม มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นผู้ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ

“ฟอร์มการเล่นของเราวันนี้ไม่ดีพอ และแน่นอนว่าผมผิดหวังมาก” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวไม่นานหลังจบเกม “เราขาดผู้เล่นไปหลายคน แต่เราต้องโฟกัสกับนักเตะที่มีอยู่ และเรามีคุณภาพมากพอที่จะทำได้ดีกว่านี้”

โอเดการ์ดเองก็ไม่ปฏิเสธการประเมินผลงานของตัวเอง ฟอร์มของแข้งวัย 26 ปีรายนี้ถูกจับตามองอย่างหนัก ท่ามกลางการขาดหายไปของผู้เล่นคนสำคัญ แฟนบอลต่างคาดหวังให้กัปตันทีมของพวกเขาก้าวขึ้นมานำทีม

เมื่อโอเดการ์ดกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงให้กับอาร์เซนอลหลังจากพักไปหกสัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายน อาร์เตต้ารู้สึกทึ่งกับความสามารถของเขาในการเรียกฟอร์มเก่งกลับมาอย่างรวดเร็ว “ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจที่เขาสามารถกลับมาเชื่อมโยงกับทีมได้แบบนั้น มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ” กุนซืออาร์เซนอลกล่าวหลังเกมที่โอเดการ์ดกลับมาลงสนามพบเชลซี

น่าเหลือเชื่อจริงๆ และบางทีมันอาจจะดีเกินกว่าที่จะเป็นเรื่องจริงก็ได้...

อิทธิพลของโอเดการ์ดในช่วงสัปดาห์แรกๆ นั้นชัดเจนและเกิดขึ้นทันที อาจจะรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องนานมาแล้ว แต่ระหว่างเกมที่เขาคัมแบ็กเจอกับเชลซีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน จนถึงตอนที่บูกาโย่ ซาก้าได้รับบาดเจ็บในเกมพบคริสตัล พาเลซเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม อาร์เซนอลอยู่ในฟอร์มการทำประตูที่ยอดเยี่ยม ซัดไปถึง 28 ประตูจาก 10 นัดในทุกรายการ โดยใน 4 นัดแรกหลังกลับมา โอเดการ์ดทำประตูหรือแอสซิสต์ได้ทุกเกม

อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่สามารถรักษามาตรฐานระดับสูงนั้นไว้ได้ ใน 12 เกมพรีเมียร์ลีกหลังจากนั้น เขาทำได้เพียง 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์เท่านั้น สถิติรวม 2 ประตูและ 3 แอสซิสต์จากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก 18 นัด ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานที่เขาตั้งไว้เองนับตั้งแต่มาค้าแข้งในลอนดอนเหนือเมื่อปี 2021

“เขากลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง และเล่นในระดับที่สูงมากๆ” อาร์เตต้ากล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเกมพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

“แต่การรักษาฟอร์มในระดับนั้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังจากนักเตะ โดยเฉพาะผู้เล่นแนวสร้างสรรค์ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก”

อาร์เตต้าปฏิเสธว่าการที่โอเดการ์ดฟอร์มตกไม่ได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงบทบาทหรือแท็กติก “สถิติของเขายังใกล้เคียงกับสิ่งที่เราคาดหวัง ทั้งเรื่องโอกาสทำประตูและพื้นที่ที่เขาเข้าไปอยู่” กุนซืออาร์เซนอลอธิบาย

“บางทีประสิทธิภาพอาจลดลงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเคยทำประตูจากลูกจุดโทษด้วย ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง แต่เราต้องการเพิ่มสถิติการทำประตูของนักเตะทุกคน และมาร์ตินก็เป็นหนึ่งในนั้น”

การวิเคราะห์ตัวเลขอย่างละเอียดบ่งชี้ว่าฟอร์มของโอเดการ์ดค่อยๆ ลดลงในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะในแง่ของการทำประตู

อาร์เซนอลทราบดีว่าฟอร์มของโอเดการ์ดในฤดูกาล 2022-23 ซึ่งเขาทำได้ 15 ประตูจาก 45 นัด เป็นมาตรฐานที่ยากจะรักษาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ชัดเจนว่าผลงานในฤดูกาลปัจจุบันต่ำกว่าความคาดหวัง อาร์เซนอลสร้างโอกาสให้โอเดการ์ดยิงประตูน้อยลง และเขาเองก็เปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นเป็นประตูได้น้อยลงด้วย

 

 

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

อาจเป็นไปได้ว่าอาการบาดเจ็บของโอเดการ์ดยังส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของเขาอยู่ การกลับมาลงสนามช่วงแรกอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะหลังจากนั้นเขากลับต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเมื่อผู้เล่นแนวรุกคนอื่นได้รับบาดเจ็บกันเป็นแถว เขาจึงต้องลงเล่นอย่างต่อเนื่องโดยแทบไม่ได้พัก อาร์เซนอลไม่สามารถหมุนเวียนผู้เล่นเพื่อลดภาระของเขาได้ เนื่องจากทีมพึ่งพาโอเดการ์ดมากเกินไป

อาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีมยังทำให้โอเดการ์ดขาดคู่หูที่เข้าขากันที่สุดไปด้วย อาร์เซนอลมีรูปแบบการเล่นที่ค่อนข้างเอียงไปทางฝั่งขวา โดยมีโอเดการ์ด, ซาก้า และ เบน ไวท์ เป็นศูนย์กลางหลักในเกมรุก

เมื่อถูกถามถึงการกลับมาของไวท์ในวันอังคารที่ผ่านมา อาร์เตต้ากล่าวว่า “เรายังไม่เคยได้ใช้ชุดผู้เล่นทางฝั่งขวาที่สมบูรณ์เลยในฤดูกาลนี้ ทั้งไวท์, บูกาโย่ และมาร์ติน ซึ่งเป็นสามประสานที่เคยเล่นด้วยกันมาเยอะมาก”

“ดังนั้น การที่ไวท์กลับมาเป็นเรื่องดี มันทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น พลังงานของเขา วิธีที่เขามีส่วนร่วมกับทีม และการสร้างสรรค์เกมของเขา เราคิดถึงเขามาก”

โอเดการ์ดเองก็คงคิดถึงไวท์ไม่แพ้ใคร

ตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งโอเดการ์ด, ไวท์ และซาก้า ต่างเป็นผู้เล่นหลักของทีม แต่ในฤดูกาลนี้ พวกเขาได้ออกสตาร์ทร่วมกันเพียง 4 นัดเท่านั้น สำหรับนักเตะที่อาศัยการเล่นแบบประสานงานและความเข้าใจในเกมแบบเป็นธรรมชาติ นี่ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการโชว์ฟอร์มของเขา

เมื่อไม่มีซาก้าคอยสนับสนุน เส้นทางการจ่ายบอลไปหาโอเดการ์ดก็ถูกตัดขาด แล้วใครจะเป็นคนสร้างโอกาสให้เพลย์เมคเกอร์ของทีม?

ในช่วงซัมเมอร์ อาร์เซนอลปล่อยให้ฟาบิโอ วิเอร่า และ เอมิล สมิธ โรว์ ออกจากทีม พร้อมทั้งเสริมมิดฟิลด์สายพลังอย่าง มิเกล เมริโน่ แทน เอธาน วาเนรี ถูกมองว่าเป็นตัวสำรองที่อาจมาทดแทนโอเดการ์ดได้ในอนาคต แต่เมื่อซาก้าได้รับบาดเจ็บ ดาวรุ่งวัย 17 ปีรายนี้ก็ต้องถูกดันไปเล่นในตำแหน่งริมเส้นแทน

นั่นทำให้ภาระในเกมสร้างสรรค์ตกอยู่ที่กัปตันทีมของอาร์เซนอลโดยสมบูรณ์ โครงสร้างทีมในปัจจุบัน เมื่อรวมกับปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้โอเดการ์ดกลายเป็นจุดศูนย์กลางของเกมรุกแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขาไม่สามารถสร้างโอกาสได้ ก็ไม่มีใครทำแทน

ความสำคัญของโอเดการ์ดปรากฏให้เห็นชัดเจนในช่วงแปดสัปดาห์ที่เขาต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ อาร์เซนอลทำแต้มหล่นไปในสี่จากเจ็ดเกมพรีเมียร์ลีกช่วงนั้น แต่เมื่อเขากลับมาลงสนามในเกมพบเชลซี ทีมก็เดินหน้าเข้าสู่สถิติไร้พ่าย 15 นัด ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดของพวกเขาภายใต้การคุมทีมของอาร์เตต้า



 

แม้ว่าฟอร์มโดยรวมของทีมจะตกลง แต่สถิติการสร้างสรรค์เกมของโอเดการ์ดยังคงอยู่ในระดับสูง ในเกมที่พ่ายต่อเวสต์แฮม เขาสร้างโอกาสจากโอเพ่นเพลย์ได้ถึง 4 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของพรีเมียร์ลีกในสุดสัปดาห์นั้น เทียบเท่ากับ ซาวินโญ่ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้

อย่างไรก็ตาม การจะให้กองกลางตัวสร้างสรรค์โชว์ฟอร์มได้เต็มที่ ทีมย่อมต้องการศูนย์หน้าตัวเป้าคอยรับบอลและจบสกอร์ ปัจจุบัน ซาก้า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เป็นผู้เล่นที่มักจะวิ่งทะลุแนวรับเพื่อรับบอลจากโอเดการ์ด แต่เมื่อพวกเขาหายไป ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูของอาร์เซนอลก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ช่วงเวลานี้เป็นบททดสอบที่เข้มข้นในชีวิตของโอเดการ์ด วัย 26 ปี เขาผ่านการบาดเจ็บหนัก ช่วงเวลาฟื้นฟูร่างกายที่โดดเดี่ยว และที่สำคัญที่สุด การเริ่มต้นชีวิตครอบครัว เมื่อรวมกับภาระความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทีมอาร์เซนอล จึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

แต่ที่อาร์เซนอล ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาในการก้าวผ่านมันไปให้ได้

“ทัศนคติของเขา ความมุ่งมั่น ความรับผิดชอบ และความปรารถนาที่จะขับเคลื่อนทีม มันน่าทึ่งมาก” อาร์เตต้ากล่าว “นี่คือสิ่งที่ผมต้องการจากนักเตะ เราต้องทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น และมาร์ตินพยายามมากกว่าทุกคน”

โอเดการ์ดและอาร์เซนอลอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน—หลังจากหลายปีแห่งความก้าวหน้า พวกเขากลับต้องเผชิญกับช่วงเวลาชะงักงัน หรืออาจจะเป็นก้าวถอยหลังก็ได้ แต่เขาคือผู้เล่นที่มีทั้งสติปัญญา ความสามารถ และความปรารถนาที่จะก้าวผ่านปัญหาเหล่านี้ไปให้ได้

ข่าวดีคือกำลังเสริมกำลังจะกลับมา กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และต่อด้วยบูกาโย่ ซาก้า คาดว่าจะคืนสนามในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น อาร์เซนอลต้องหาวิธีปลดล็อกเกมรุกของพวกเขา และในเมื่อไม่มีตัวเลือกอื่นมากนัก กัปตันทีมของพวกเขาอาจเป็นกุญแจสำคัญ

อาร์เซนอลต้องการเขาตอนนี้มากกว่าที่เคย

ถ้าไม่ใช่โอเดการ์ด แล้วจะเป็นใคร?