Jump to content
Sign in to follow this  
admin

เห็นแผลจากนัดชนะนิว!! อาร์เซน่อล, เดแคลน ไรซ์ และทำไมพวกเขาถึงต้องการ "มาร์ติน ซูบิเมนดี้"

Recommended Posts

GettyImages-2215739442_vdp8erjy.jpg?auto

ดูบอลสดฟรี

By Liam Tharme (The Atheltic UK)

เป็นฤดูกาลที่สามติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกที่อาร์เซน่อลจะจบด้วยอันดับที่สอง และอีกครั้งที่ทีมต้องกลับมาทบทวนตัวเองเพื่อหาชิ้นส่วนที่หายไป เพื่อที่จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นในฤดูกาลหน้า

คำอธิบายที่ง่ายเกินไปคือว่า "พวกเขาต้องการกองหน้า" ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะเว้นแต่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จะยิงได้ 5 ประตูในเกมสุดท้ายกับเซาแธมป์ตันสุดสัปดาห์หน้า อาร์เซน่อลจะไม่มีผู้เล่นคนใดทำประตูถึง 20 ลูกในพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นฤดูกาลที่ห้า (นับตั้งแต่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิงได้ 22 ประตูในฤดูกาล 2019-20)

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลที่อาร์เซน่อลก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า (ทั้งในแง่คะแนน, อันดับ, เกมรุก และเกมรับ) ล้วนเกิดขึ้นโดยไม่มีหมายเลข 9 ที่เป็นดาวยิงประจำทีม จุดแข็งของพวกเขาคือการกระจายประตูจากหลายตำแหน่งในแนวรุก ไม่ต้องพึ่งพาผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเหมือนทีมอื่น

อาการบาดเจ็บของผู้เล่นในช่วงเวลาต่าง ๆ ส่งผลกระทบต่อทีมในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทีมมีขนาดเล็กและเน้นการเล่นเป็นคู่ระหว่างผู้เล่นบางคน ปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไขโดยทีมงานโค้ช (ในเรื่องการหมุนเวียนผู้เล่น) และทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา (ในการจัดการภาระทางกายภาพ)

แต่สิ่งที่ฝ่ายจัดหาผู้เล่นควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือ การหามิดฟิลด์ตัวรับ หรือ “หมายเลข 6”

ในเกมที่พบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดเมื่อวันอาทิตย์ ดีแคลน ไรซ์ แสดงให้เห็นถึงผลงานที่กำลังกลายเป็น “สไตล์ประจำตัว” เขาลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8 ด้านซ้าย มีบทบาทเชิงรุก และเป็นคนยิงประตูชัยในนาทีที่ 55 จากจังหวะตัดบอลคืนของ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่หน้าเขตโทษ

ไรซ์มีจังหวะสัมผัสบอลเพียง 40 ครั้ง ซึ่งน้อยเป็นอันดับสามของทีมในเกมนั้น ขณะที่ โธมัส ปาร์เตย์ และโอเดการ์ด ต่างจ่ายบอลทะลุแนวได้ 6 ครั้ง เทียบกับไรซ์ที่จ่ายได้เพียง 3 ครั้ง

declan_rice_first_second_half.png

แม้ไรซ์จะย้ายมาด้วยค่าตัวสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของผู้เล่นอังกฤษในฐานะ “หมายเลข 6” จากเวสต์แฮมเมื่อสองปีก่อน แต่เขาก็ได้เปลี่ยนบทบาทไปเป็นหมายเลข 8 ที่เน้นการพุ่งเข้ากรอบเขตโทษ ในฤดูกาลนี้ (เช่นเดียวกับในฤดูกาล 2023-24 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกของเขากับอาร์เซน่อล) เขาทำสถิติยิงประตูและแอสซิสต์ต่อฤดูกาลได้สูงที่สุดในชีวิตค้าแข้ง

ปัญหาคือ อาร์เตต้ากำลังเจอกับสถานการณ์ที่ย้อนแย้ง: ในเมื่อไม่มีหมายเลข 9 ที่ยิงประตูได้สม่ำเสมอ (หรือฮาแวร์ตซ์ไม่ฟิตพอในเกมกับนิวคาสเซิล) และประตูจากสองปีกอย่าง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กับ บูกาโย่ ซาก้า ลดลง เขาจึงต้องพึ่งพาการเติมเกมของไรซ์ในเขตโทษ แต่การดันไรซ์ขึ้นสูงกลับทำให้ทีมอ่อนแอลงในเกมการต่อบอลจากแนวรับ


นี่คือสิ่งที่อาร์เซน่อลต้องเผชิญกับระบบ 5-4-1 ของนิวคาสเซิ่ล

Narrow-front-3.png

 

ไรซ์ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports หลังเกมว่า อาร์เตต้าได้สั่งให้ผู้เล่น “ใส่อารมณ์ส่วนตัว” เข้าไปในเกมนี้ หลังจากแพ้ให้กับทีมนิวคาสเซิลของ เอ็ดดี้ ฮาว มาแล้วสามครั้งในฤดูกาลนี้ แม้ผลการแข่งขันจะเป็นไปในทางบวก แต่ฟอร์มการเล่น โดยเฉพาะในครึ่งแรก ยังไม่ดีพอ ไรซ์ถอนหายใจแรงก่อนจะพูดถึง “การออกสตาร์ทที่ช้า” ในการให้สัมภาษณ์เดียวกัน

อาร์เซน่อลยังคงเล่นด้วยการถ่างเซ็นเตอร์แบ็กออกด้านข้างเหมือนเคย และนิวคาสเซิลตอบโต้ด้วยการเพรสแบบตัวต่อตัว ซึ่งทำให้ผู้รักษาประตู ดาบิด รายา ต้องเตะบอลมากขึ้นทั้งในแง่จำนวนและความถี่ ทางออกเดียวจริง ๆ ที่จะเจาะเพรสนิวคาสเซิลได้ คือต้องมีมิดฟิลด์ที่สามารถรับบอลจากรายาและแตะออกด้านข้างอย่างรวดเร็วในจังหวะเดียว

 

CBs-split.png

 

แม้ว่านิวคาสเซิลจะเพรสซิ่งได้ดุดันมากเวลาที่ไม่ได้ครองบอล แต่ในเกมวันอาทิตย์พวกเขาไม่มี โจลินตัน ผู้เล่นที่มีความแข็งแกร่งทางกายภาพมากที่สุดในทีม และยังมีมิดฟิลด์ตัวกลางเพียงสองคนในสนาม การที่ไรซ์ยืนสูงในช่วงการขึ้นเกมของอาร์เซน่อล จึงดูเหมือนเป็นกลยุทธ์ในการเล่นจังหวะสองจากบอลยาวมากกว่าการสร้างเกม เขาควรจะถอยลงมาเป็น “ตัวว่าง” เพื่อช่วยโอเวอร์โหลดแดนกลางมากกว่านี้

ในจังหวะหนึ่ง ซึ่งมีทั้ง โธมัส ปาร์เตย์, มาร์ติน โอเดการ์ด และ เลอันโดร ทรอสซาร์ (ที่เล่นเป็นหมายเลข 9) อยู่ในแนวตั้งเดียวกัน ทำให้มีช่องว่างขนาดใหญ่เปิดออกทางฝั่งซ้ายกลางสนาม แต่ไรซ์ยังคงยืนสูง และไม่ลงมาเติมพื้นที่ตรงนั้นเลย

 

Shape-10-30.png


ทันทีที่เขาโดนเพรส รายา (ผู้รักษาประตู) พยายามจ่ายบอลด้วยเท้าขวาอย่างฝืน ๆ ไปให้ มาร์ติเนลลี่ ที่ริมเส้นฝั่งซ้าย แต่บอลพลาดไปเข้าทาง ฮาร์วีย์ บาร์นส์ — ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เล่นให้กับอาร์เซน่อล

เพียงไม่กี่วินาทีถัดมา นิวคาสเซิลก็เจาะแนวรับอาร์เซน่อลที่กระจายกันออกกว้าง และเข้าสู่เขตโทษของเจ้าบ้านได้ทันที


shape-10-30-ii.png

การวางบอลไกลของรายาในครึ่งแรกแย่มาก — ซึ่งไม่ใช่แค่เกมนี้ แต่เป็นรูปแบบซ้ำ ๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวอย่างหนึ่งคือในนาทีที่ 5 รายาพยายามจ่ายบอลทะลุกลางสนามให้ถึงเท้าของ ทรอสซาร์ แต่ ซานโดร โตนาลี อ่านเกมได้และตัดบอล ก่อนที่นิวคาสเซิลจะจ่ายต่อกันอีกสองครั้ง ทำให้รายาต้องเซฟสองจังหวะรวดเพื่อป้องกันประตูจาก บรูโน่ กิมาไรส์

นั่นเป็นหนึ่งในสามความผิดพลาดที่นำไปสู่การเสียโอกาสยิงของอาร์เซน่อลในเกมนี้ โดยฤดูกาลนี้พวกเขาทำพลาดในลักษณะนี้ไปแล้ว 30 ครั้ง — มากเป็นอันดับสามของลีก และมากกว่าสองฤดูกาลก่อนรวมกัน (15 และ 11 ครั้งตามลำดับ)


david_raya_arsenal_1-0_newcastle__premie

 

อาร์เซน่อลพยายามใช้หลายวิธีเพื่อเจาะการเพรสของนิวคาสเซิล แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก หนึ่งในนั้นคือการขึ้นเกมฝั่งซ้ายที่ มาร์ติเนลลี่ ถอยต่ำลงมารับบอล และ ไมลส์ ลูอิส-สเกลลี่ วิ่งเติมขึ้นหน้า

แผนนี้ออกแบบมาเพื่อทำให้ระบบเพรสแบบแมน-ทู-แมนของเอ็ดดี้ ฮาวสับสน แต่ บาร์นส์ ก็ยังตามประกบได้ทัน และบอลยาวของรายาก็แรงเกินไปอยู่ดี

Release-MLS.png


มีอีกจังหวะหนึ่งในนาทีที่ 40 ที่สะท้อนให้เห็นชัดว่า มิดฟิลด์ของอาร์เซน่อลไม่ค่อยขยับหาพื้นที่รับบอล วิลเลียม ซาลิบา จ่ายบอลทะลุการเพรสเข้าไปที่เท้าของ ซาก้า ซึ่งถอยลงมาต่ำเพื่อรับบอล

 

Saka-40-i.png


วิงแบ็ก ติโน ลิฟราเมนโต้ ฟื้นตัวได้เร็ว และเซ็นเตอร์ฝั่งซ้าย แดน เบิร์น ก็พุ่งเข้ามาบีบเพื่อไม่ให้ซาก้าได้พลิกบอล

ตำแหน่งของ ฟาเบียน ชาร์ ที่ดันสูงน่าจะเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถจ่ายบอลต่อให้ ไรซ์ (หมายเลข 8 ฝั่งไกลที่อยู่เลยผู้ตัดสินไปเล็กน้อย) ได้ทันที แต่ที่น่าสังเกตคือ ไม่มีการวิ่งสนับสนุนจาก โอเดการ์ด, ปาร์เตย์ หรือแม้แต่แบ็กขวาอย่าง เบนจามิน ไวท์ เลย

 

Saka-40-ii.png


 

ซาก้า ต้องครองบอลไว้นาน และสุดท้ายก็โดน แดน เบิร์น ทำฟาวล์ล้มลงเกือบถึงแดนรับของอาร์เซน่อล ซาลิบา ผู้ที่จ่ายบอลให้ซาก้าในจังหวะแรก เป็นผู้เล่นอาร์เซน่อลเพียงคนเดียวที่วิ่งเติมขึ้นไปข้างหน้า

 

Saka-40-iii.png

การที่อาร์เซน่อลไม่สามารถครองบอลได้อย่างต่อเนื่อง บวกกับการโต้กลับทางริมเส้นที่อันตรายของนิวคาสเซิล ทำให้ ลูอิส-สเกลลี่ ไม่สามารถขยับจากแบ็กเข้าไปช่วยในแดนกลางได้เลย และเมื่อไม่มีเขา อาร์เซน่อลก็ดูไร้ทิศทาง แถม โอเดการ์ด ยังต้องเล่นอยู่ใกล้ประตูตัวเองมากเกินไป ทำให้เขาอยู่ห่างจากแนวรุกมากเกินกว่าจะสร้างสรรค์เกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตลอดทั้งฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก มีเพียง 3 นัดเท่านั้นที่อาร์เซน่อลครองบอลด้วยการต่อบอล 10 ครั้งขึ้นไปได้น้อยกว่าในเกมนี้ (แค่ 7 ครั้ง) และนี่ก็เป็นครั้งที่ 6 ของฤดูกาล — ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นหลังเดือนพฤศจิกายน  ที่พวกเขาไม่สามารถสร้าง “โอกาสใหญ่” จากโอเพ่นเพลย์ได้เลย (ลูกโหม่งของปาร์เตย์จากลูกเตะมุมของซาก้า เป็นโอกาสครั้งเดียว)

แนวทางของ อาร์เตต้า ที่เน้นพละกำลัง, ความสูง, และการดวลตัวต่อตัวในแดนกลาง อาจจะ "หนักมือเกินไป" สำหรับเกมแบบนี้ อาร์เซน่อลไม่มีมิดฟิลด์ที่สามารถต้านเพรสได้ดีและจ่ายบอลได้ต่อเนื่องในสไตล์เดียวกับ บรูโน่ กิมาไรส์, โตนาลี, โรดรี้ ของแมนฯ ซิตี้ หรือ ไรอัน กราเฟนแบร์ค ของลิเวอร์พูล

อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมั่นใจว่าจะสามารถคว้าตัว มาร์ติน ซูบีเมนดี้ จากเรอัล โซเซียดาดในช่วงซัมเมอร์นี้ได้ ซึ่งเขาเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการนี้

เมื่อเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว จำนวนการเลี้ยงบอลและครอสของอาร์เซน่อลเพิ่มขึ้น แต่การสร้างสรรค์โอกาสโดยรวม (ในแง่ Expected Goals) กลับลดลง และจำนวนการแทงทะลุแนวรับก็ลดลงด้วย ส่วนหนึ่งที่ทำให้กองหน้าประเภท “ดาวยิงเบอร์ 9” กลายเป็นเป้าหมายที่น่าดึงดูด ก็เพราะแนวรับของคู่แข่งมักตั้งรับลึก (low block) ใส่อาร์เซน่อลบ่อยมาก เหตุผลง่าย ๆ คือ พวกเขายังไม่สามารถเจาะแนวรับผ่านแดนกลางแนวลึกได้ดีพอ

แม้ผลงานเกมรุกจะมีปัญหา แต่เกมรับก็ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหลังจากคลีนชีตในเกมนี้กับนิวคาสเซิล ทำให้ รายา อาจกลายเป็นผู้รักษาประตูอาร์เซน่อลคนแรกที่คว้ารางวัล Golden Glove สองปีติด (ตอนนี้เขามี 13 คลีนชีต เท่ากับ แมตต์ เซลส์ ของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์)

แนวรับของอาร์เซน่อลถือว่าแน่นหนา แม้จะไม่มี กาเบรียล ที่บาดเจ็บ และแม้ ซาลิบา ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง แต่สิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องหาให้ได้ หากต้องการยกระดับทีม ก็คือ มิดฟิลด์ตัวรับเชิงเทคนิค หมายเลข 6 ที่เล่นบอลเก่ง และทนต่อการเพรสซิ่งได้

ดูบอลสดฟรี

 

Share this post


Link to post
Share on other sites




 Hi88    สล็อตเว็บตรง    สล็อตเว็บตรง    คาสิโน  

อาร์เซน่อล ไม่ค่อยชอบทีมแบบพวกนิวคาสเซิ่ล ที่แดนกลางแข็งแรง เพลสกันดุดัน อย่างครึ่งแรกช่วงที่โดนนิวกระหน่ำ ตรงกลางโดนเปิดพื้นที่เยอะมาก ส่วนหนึ่งก็เพราะโดนบีบ จนออกบอลพลาดกันเอง แต่เห็นแผลชัดเจน ถ้าราย่าไม่ผีเข้าน่าจะมีโดนสักลูก พอโดนบีบมากๆ ราย่าโดนบีบให้ต้องออกบอลยาว พอออกบอลยาว ด้านบนเราเป็น ทรอสซาร์ มาร์ตี้ ซาก้า รูปร่างคนละเรื่องกับกองหลังนิวคาสเซิ่ล ไปขึ้นไปก็เก็บบอลด้านบนไม่ได้

ถ้าพูดถึง Unit ของทีมอาร์เซน่อลตอนนี้ที่เราไว้ใจได้ก็คือ ประตู กับแผงแนวรับ ที่ค่อนข้างจะนิ่ง ภารกิจในซัมเมอร์นี้ หลักๆ คือทำให้ ตรงกลาง กับแดนบน ดีขึ้นกว่านี้ แน่นอนว่ากองหน้าตัวเป้ามันจำเป็นที่สุด ตรงกลางได้ซูบิเมนดี้มาแล้ว ก็ต้องมาลุ้นว่าซูบิมาเล่นกับเราแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบไหน แต่อีกจุดเราต้องเพิ่มความ Creative จากแดนกลางให้มากขึ้น ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องเป็น เบอร์ 10 แบบโอเดการ์ดก็ได้ สมัยนี้มันก็มีพวกปีก สาย Creative ที่มันขยับเข้ามาช่วยทำเกมส์ได้ด้วย จะได้เพิ่มความหลากหลาย ตอนนี้เราพึ่งโอเดการ์ดมากเกินไป

ส่วนปีกเราก็พึ่งฝั่งขวาด้านซาก้ามากเกินไป กราบซ้ายก็ต้องยกระดับให้มาใกล้เคียง ไม่งั้นคู่แข่งก็ Overload มาปิดซาก้ากันหมด ตรงปีกซ้ายไม่ต้องระวังมาก 1 ต่อ 1 ยังผ่านลำบากเลย โจทย์คือทำยังไงให้คู่แข่งไม่สามารถ Overload ไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ ซาก้าเจอ 3-4 คน ช่วงหลังก็ยิงประตูแทบไม่ได้ กว่าจะฝ่าเข้าไปได้ จังหวะยิงมันก็ไม่ถนัดแล้ว

Share this post


Link to post
Share on other sites

สังเกต เวลา รับ  อาเซน่อล ยืน ไลน์ ไม่ เป็น แถว เลย  ไม่เหมือน นิวคลาสเซิ่ล   ยืน แถว ล่ะ  4 คน  มี 2 แถว   ตรง เป๊ะ

Share this post


Link to post
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Sign in to follow this  

×
×
  • Create New...